การบริหารทีม แบบปังปุริเย่ ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่ใช่สูตรพิเศษใครๆก็ทำได้ และสามารถทำให้ดีกว่าได้ เริ่มจากการเข้าใจการทำทีมก่อน ในบทความนี้จะเล่าถึงวิธีการทำทีมโดยเริ่มจาก SuperAI2-851 ปิยะพันธ์ วงมา(ไบรอั้น) อาสาเข้ามาเป็นหัวหน้าบ้าน
บทความนี้เป็นบทความที่สามารถอ่านต่อได้จากบทความ
ตำราวิธีพิชิตค่าย Super AI ฉบับสมบูรณ์
การแข่งขันในค่าย Super AI เป็นอย่างไร
เมื่อพูดถึงคนจำนวนมากมารวมตัวกัน 22 คนแต่ละคนมีประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงานที่ไม่ธรรมดามาอยู่รวมกัน สำหรับบ้านปังปุริเย่แล้วมีตั้งแต่ปริญญาตรี จนถึงปริญญาเอก คนที่ประสบความสำเร็จด้านการแข่งขันวิชาการมาอยู่ด้วยกัน เรามีวิธีการจัดการอย่างไร ซึ่งบทความนี้จะเล่าผ่านมุมมองและประการณ์ส่วนตัวของ SuperAI2-851 ไบรอั้น ผู้ที่อาสาเข้ามาเป็นหัวหน้าบ้านในวันแรกที่เจอกัน
อาสาสมัคร การบริหารทีม แบบปังปุริเย่
หนึ่งในความสำเร็จ และความสำเร็จสูงสุดของบ้านปังปุริเย่เลยก็คือ ระบบการอาสาสมัคร ในวันแรกที่ทุกคนเจอกันทางโครง Super AI Engineer ต้องการหาหัวหน้าบ้าน และทีมผู้ประสานงาน เพื่อการสื่อสารกันระหว่างผู้เข้าแข่งขันกับทางโครงการให้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ในสถานการณ์นั้นยากที่จะเลือกใครมาเป็นผู้นำและผู้ประสานงานได้ สิ่งแรกที่ไบรอั้นทำคือ อาสามาเป็นหัวหน้าบ้าน ก้าวแรกของคนริเริ่ม จะเกิดก้าวต่อมาทันที และไม่นานเราก็ได้ผู้ประสานงานอีก 2 ท่านคือ ฟิวส์ และทูล ที่จะมาช่วยกันติดต่อประสานงานกับทางโครงการ จึงกลายมาเป็นกฎข้อแรกงานทุกงานต้องอาสาทำ
ระบบอาสาสมัครของบ้านปังปุริเย่ กลายมาเป็นระบบที่เข้มแข็ง และทรงพลังของบ้านปังปุริเย่มากๆ เพราะในทุกๆสัปดาห์ ทุกๆงานเราจะมีคนอาสามาทำงานกันตลอดไม่ขาดตกบกพร่อง กลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่หล่อหลอมขึ้นมา โดยปราศจากการบังคับ จับวางตำแหน่งว่าใครควรทำอะไร เพราะทุกคนสามารถเลือกงานที่ต้องเองสนใจอยากทำได้ ทำให้ไม่มีใครที่เสียจ และรู้สึกไม่ดีกับการทำงานที่ตัวเองเลือก
การบริหารทีม แบบปังปุริเย่ คือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
เพื่อให้คนที่อาสามาทำงานนั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ไบรอั้นจึงตั้งกฎข้อที่ 2 ทุกคนต้องให้เกียรติคนที่กล้าอาสามาทำงาน เพื่อที่เขาจะได้เต็มใจอาสามาดูแลงานนั้นได้อย่างสะดวกใจโดยไม่ต้องกังวล ซึ่งไบรอั้นได้เสนอตัวว่า การเป็นหัวหน้าทีมจะเปลี่ยนกันทุกๆ 1 สัปดาห์เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านอื่นได้อาสามาเป็นหัวหน้าทีม และพัฒนาเรียนรู้การดูแลทีมกันได้ ดังนั้นต่อไปถ้าใครอาสามาเป็นหัวหน้า ทุกคนต้องให้เกียรติคนที่เข้ามานั้นคือ การบริหารทีม แบบปังปุริเย่ ซึ่งทำให้ทีมสามารถดูแลกันได้ยาวต่อเนื่อง 11 สัปดาห์ และเปี่ยมไปด้วยความยินดีให้แก่กัน
ทุกตำแหน่งต้องหมุนเวียนได้
กฎข้อที่ 3 คือทุกตำแหน่ง ทุกคนในบ้านต้องหมุนเวียนมาทำงานทดแทนกันได้ เพื่อให้ทุกคนในบ้านมีความสามารถเทียบเท่ากัน และแข่งขันกับคนอื่นได้ ต้องพัฒนาทุกคนในบ้าน ทุกคนต้องเขียนโปรแกรมเป็น ทุกคนต้องเป็นหัวหน้าทีมได้ ทุกคนต้องนำเสนอผลงานได้ เพราะเส้นทางยาวไกล 11 สัปดาห์ เราต้องมีคนมาทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง เกมการแข่งขันฤดูกาลนี้ยาวนาน ทีมแข่งขันเราต้องดีให้พอกับกาลเวลา นั้นคือทุกตำแหน่งต้องหมุนเวียนกันได้
แจ้งตารางงานประจำสัปดาห์
ทุกคนในบ้านมีหน้าที่แจ้งตารางกิจกรรมส่วนตัวของตัวเองล่วงหน้า 1 สัปดาห์แก่เพื่อนๆ เพื่อบอกว่าเราสะดวกทำงานวันไหน ไม่สะดวกเมื่อไหร่ และเราติดธุระอะไร เหตุผลของการแจ้งตารางงานจะช่วยให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเราจะรู้ว่าใครสะดวก และใครไม่สะดวก วันไหนใครติดเรียน วันไหนใครติดสอบ เราจะได้ไม่มีเรื่องขัดใจกัน เมื่อเพื่อนไม่สามารถมาทำงานได้ และสุดท้ายเราสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ เราทำผ่าน Google Sheet กันอย่างง่าย เน้นง่ายไว ใช้งานได้จริง
จับฉลาก การบริหารทีม แบบปังปุริเย่
เป็นเรื่องง่ายๆที่เราทำกันประจำ สำหรับการจัดทีมแบ่งทีมการแข่งขัน เพราะบางสัปดาห์โจทย์ต้องการให้เราแบ่ง 7 ทีม หรือ แบ่ง 4 ทีม หรือแบ่ง 3 ทีม วิธีการของเราด้วยปรัชญา ทุกคนต้องทดแทนกันได้ หมุนเวียนกันทำงานได้ เราจึงใช้นโยบายจับฉลากทีมเสมอ ไม่ให้มีทีมที่เก่งเกินไป และทีมที่อ่อนเกินไป ทุกทีมเกิดจากการจับฉลาก
โดยเรามีเงื่อนไขอย่างง่าย แบ่งคนออกเป็น 2 ประเภท
- คนที่สะดวกในสัปดาห์นั้น
- คนที่ไม่สะดวกในสัปดาห์นั้น (จ-ศ) ติดธุระมากกว่า 3 วันจาก 5 วัน
วึ่งแต่ละทีม จะมีทั้งคนสะดวก และคนไม่สะดวกคละอยู่ด้วยกัน เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่สะดวกจับโดนไปอยู่ทีมเดียวกัน และจะเป็นอุปสรรค์ในการทำงาน
วิธีการจับฉลากเราก็ทำงานง่ายๆ ด้วยการหมุนล้อจับฉลาก จาก Wheelofnames
เครื่องมือสื่อสาร (Slack)
สิ่งที่สำคัญมากๆ มากๆ มากๆ ในการทำงานเป็นทีมคือเครื่องมือสื่อสาร ทำอย่างไรให้เราสามารถส่งต่อข้อมูล ส่งต่อความรู้ ส่งต่อกระจายสารได้ถึงทุกคน และมีพื้นที่สำหรับการทำงานอย่างเป็นระบบ (ไบรอั้น ชื่นชอบ Microsoft Teams) จึงได้ค้นหาเครื่องมือที่มีคุณภาพ และมีคุณลักษณ์ดังนี้
- ใช้งานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ไม่จำกัดการใช้งาน
- สามารถใช้งานได้ทั้งคอม มือถือ และแท็บเล็ต
- สามารถจัดเก็บข้อความได้ ตลอดกาล
- สามารถส่งต่อไฟล์ รูปภาพ หรือข้อมูลอื่นได้ไม่จำกัดประเภท
- สามารถสร้างห้องที่สามารถพูดคุยกันในกลุ่ม หรือในทีมย่อยได้ง่าย
- เป็นส่วนตัว สงวนเป็นความลับองค์กรได้
แม้ว่าเราจะมีการใช้งาน Line บ้างเพราะไวและสะดวก แต่ยังไม่สะดวกในการจัดเก็บข้อมูลเป็นหมวดหมู่ และเก็บระยะยาว เราจึงต้องมีช่องทางหลักในการสื่อสารกันอย่างเป็นทางการ และใช้ข้อมูลนั้นพูดคุยกันตลอด จึงออกมาเป็น Slack
ห้องทำงาน
เมื่อเราจัดทีมกันได้แล้ว สิ่งที่เราทำต่อมาคือการจัดที่นั่งทำงาน เพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์กันระหว่างทีม ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เรามีการจัดที่นั่งที่สามารถให้แต่ละทีมทำสามารถนั่งใกล้กัน พูดคุยกันได้สะดวก โดยปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์ตัวเอง เน้นการสื่อสารที่ไว และใกล้ชิดกันเป็นหลัก มีหลักการดังนี้
- นั่งเป็นทีม
- พูดคุยสะดวก
- แยกส่วนทำงาน กับเล่น
- มีแสงสว่างทั่วถึง
โดยเราเหลือพื้นที่ส่วนของหลังห้องไว้สำหรับ พักผ่อนและบันเทิง
ห้องทำงานโลกเสมือน (Metaverse Workplace)
การแข่งขันจัดแบบ Onsite 3 Weeks แล้วก็ Online 3 Weeks วนสลับไปมา ดังนั้นเราจึงต้องวางแผนการทำงานในโลกออนไลน์ ที่ทำคนจะมีปฏิสัมพันธ์ ร่วมกันได้ เปิดกล้อง เปิดไมค์ แชร์หน้าจอ ได้เสมือนว่ายังคงทำงานอยู่ร่วมกันได้เหมือนอยู่ใกล้กัน ด้วยเงื่อนไขดังต่อไปนี้ทำให้เราได้ใช้ gathertown
- ตรวจสอบสถานะการออนไลน์ของเพื่อนได้
- พูดคุยได้
- เปิดกล้องได้
- แชร์หน้าจอได้
- พิมพ์ข้อความด่วนได้
- พูดคุยแบบส่วนตัวได้
- เล่นเกมร่วมกันได้
Data Storage (Google Drive)
นี่เป็นเรื่องแรกๆที่เราตั้งเป็นมาตราฐานการทำงานร่วมกันคือสร้าง gmail บ้านขึ้นมาเพื่อให้งานร่วมกัน Google Drive แชร์กันแล้วซื้อพื้นที่สำหรับการใช้งาน เราเลือกซื้อ Package 990บาทต่อปี ได้พื้นที่ 200GB
ซึ่งนี้เป็นวิธีการที่สำคัญมากที่ทำให้เราสามารถทำงานได้ไว เนื่องจากสมาชิคทุกคนส่วนใหญ่(80%) ใช้ Google Colab สำหรับการเขียน Python ด้วยความที่เป็นบริการของ Google ด้วยกันเองแล้วทำให้การ Load ข้อมูลมาประมวลผลสามารถทำงานได้ง่าย และรวดเร็ว สมมติเราต้อง Download ข้อมูล 50 Gb มาลงเครื่องใช้เวลา 1 ชั่วโมง เราสามารถสั่ง Download ไปวาง Google Drive ไม่ถึง 2 นาที แล้วเราก็ประมวลผลได้ทันที ประหยัดเวลาการทำงานลงได้มหาศาล
Data Augmentation / Data Pre-processing ใช้งานร่วมกัน ทำให้เรามีข้อมูลที่ดีใช้งานด้วยกัน
การประชุมทีม
สิ่งที่ทำให้บ้านเรามีความสามารถทัดเทียมกัน หัวใจสำคัญคือการประชุมทีม โดยเรานำกรอบแนวทาง Scrum Daily มาใช้ ทำให้เราได้พูดคุยกันทุกวันวิธีการมีดังต่อไปนี้
- ทุกคนต้องยืนล้อมวงกัน
- ใช้เวลาการประชุมไม่เกิน 15 นาทีต่อวัน
- ทุกคนต้องแนะนำตัวก่อนพูดทุกคน ว่าชื่ออะไร (ทำให้เรารู้จักกันได้ไวขึ้น และทำงานร่วมกันได้สนิทใจไวขึ้น)
- อัปเดทเนื้อหาทุกวันดังต่อไปนี้
- เมื่อวานทำอะไร เจอปัญหาอะไร แก้ปัญหาอะไร
- วันนี้ทำอะไรมาแล้วบ้าง เจอปัญหาอะไร แก้ปัญหาอะไร
- ต่อไป และพรุ่งนี้จะทำอะไร
- ทำความเข้าใจเดียวกัน One Team One Goal ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน
- เมื่อไม่เข้าใจ ต้องวาดกระดานให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน
การบริหารทีม แบบปังปุริเย่ ต้องมีการแบ่งปันข้อมูล
สิ่งที่บ้านปังปุริเย่ทำเป็นบ้านแรกในโนโครงการ Super AI Engineer คือการทำ Knowledge Sharing กันในบ้าน โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภทการแบ่งปันดังนี้
1. แชร์ปัญหาที่พบเจอ และการแก้ไขปัญหา เมื่อถึงเวลาประชุมในแต่ละวัน
เมื่อมีคนลองผิดลองถูกในเส้นทางใดแล้ว สามารถกลับมาบอกเพื่อนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้เพื่อนไปลองผิดเหมือนกัน ลดการทำงานซ้ำซ้อน และเสียเวลาการเรียนรู้ลง เราสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของเพื่อนได้ เลย
2. เปิดคลาสสอนกันเอง แนะนำเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ใช้แน่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน Super AI Engineer
เราจะทราบว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการแข่งขันโจทย์ประเภทอะไร เราจะมีเวลาพักและเตรียมตัวประมาณ 1 วัน สำหรับคนที่มีประสบการณ์ หรือคนที่ไปเตรียมข้อมูลมาก่อน ก็จะเปิดสอนเพื่อนๆ สำหรับเครื่องมือที่คาดว่าจะใช้งาน เพื่อให้เพื่อนๆในบ้ามีความรู้ทันกัน และสามารถช่วยเหลือกันได้ ในทุกๆโจทย์
ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเทคนิคของผู้นำ และการร่วมมือร่วมใจกันของคนในบ้าน ถ้าเริ่มต้นดี ตั้ง Mindset เป็นแบบเดียวกันได้ เราจะเดินหน้าในค่า Super AI Engineer ได้ยาวนาน ในฐานะที่ผม (ไบรอั้น) เป็นผู้นำคนแรก และได้เห็นสมาชิคทุกท่านหมุนเวียนกันมานำทีมในแต่ละสัปดาห์ โดยกรอบแนวทางที่เราออกแบบเพื่อสมาชิคทุกคนสามารถทำงานกันได้ ก็รู้สึกดีใจมากๆ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ สมาชิคบ้าน Pangpuriye นั้นจะสลับทีม สุ่ม จับฉลากหมุนยังไง ทุกทีมก็สามารถไปแข่งกับบ้านอื่นได้ทั้งหมด
ขอยกตัวอย่างคร่าวๆ ในเกือบทุกๆสัปดาห์ที่มีการแบ่งทีมย่อยกันทำงานบ้าน Pangpuriye จะเป็นหนึ่งบ้านที่เข้ารอบเตรียม Pitching ทุกทีม ในขนะที่บ้านอื่นอาจจะมีทีมเข้าไปไม่กี่ทีม แต่บ้านอื่นมักเป็นทีมที่เก่งระดับ Top เข้ามาแข่ง
หวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านสามารถสร้างทีมที่ดีกว่า Pangpuriye Super AI Engineer Season2